วันจันทร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ปฏิทิน

นางสาว สุพัตรา พรมลี

คณะ การท่องเที่ยวและการโรงแรม

รหัส 50011011017


อาหารไทย




อาหารไทย 4 ภาค แตกต่างกันอย่างไรอาหารไทยภาคเหนือ อาหารของภาคเหนือประกอบด้วยข้าวเหนียว น้ำพริกชนิดต่างๆ เป็นต้นว่า น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกแดง น้ำพริกอ่อง มีแกงหลายชนิด เช่น แกงฮังเล แกงโฮะ แกงแค นอกจากนั้นยังมีอาหารพื้นเมือง เช่น แหนม ไส้อั่ว เนื้อนึ่ง จิ้นปิ้ง แคบหมู หมูทอด ไก่ทอดและผักต่างๆ คนไทยที่อยู่ทางภาคเหนือนิยมรับประทานอาหารรสกลางๆ มีรสเค็มนำเล็กน้อย รสเปรี้ยวและหวานมีน้อยมาก หรือแทบไม่นิยมเลย เนื้อสัตว์ที่นิยมรับประทาน ได้แก่ เนื้อหมู เพราะหาได้ง่าย ราคาไม่แพง และมีขายทั่วไปในท้องตลาดเนื้อสัตว์อื่นที่นิยมรองลงมาคือ เนื้อวัว ไก่ เป็ด นก ฯลฯ สำหรับอาหารทะเลนิยมน้อยเพราะราคาแพง เนื่องจากอยู่ห่างไกลทะเล อาหารไทยภาคกลาง โดยทั่วไปคนภาคกลางรับประทานอาหารที่มีรสกลมกล่อม มีรสหวานนำเล็กน้อย วิธีการปรุงอาหารซับซ้อนขึ้นด้วยการนำมาเสริมแต่ง หรือประดิดประดอยให้สวยงาม เช่น น้ำพริกลงเรือ ซึ่งดัดแปลงมาจากน้ำพริกกะปิ จัดให้สวยงามด้วยผักแกะสลักเป็นต้น ลักษณะอาหารที่รับประทาน มักผสมผสานกันระหว่างภาคต่างๆ เช่น แกงไตปลา ปลาร้าน้ำพริกอ่อง เป็นต้น ทุกบ้านจะรับประทานข้าวสวยเป็นหลักอาหารเย็นมีกับข้าว 3-5 อย่าง ได้แก่ แกงจืดหรือแกงส้มหรือแกงเผ็ด เช่น พะแนง มัสมั่นแห้ง ไก่ผัดพริก หรือยำ เช่น ยำถั่วพู ยำเนื้อย่าง อาหารประจำของคนไทยภาคกลางคือ ผัก น้ำพริก และปลาทู อาจจะมีไข่เจียว เนื้อทอด หรือหมูย่างอีกจานหนึ่งก็ได้ โดยคำนึงถึงวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นหลัก อาหารไทยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อาหารจะมีข้าวเหนียวนึ่งเป็นหลักเช่นเดียวกับภาคเหนือ รับประทานกับลาบไก่ หมู เนื้อ หรือ ลาบเลือด ส้มตำ ปลาย่าง ไก่ย่าง จิ้มแจ่ว ปลาร้า อาหารภาคนี้จะนิยมปิ้ง หรือย่างมากกว่าทอดอาหารทุกชนิดต้องรสจัด เนื้อสัตว์ที่นำมาปรุงอาหาร ได้แก่ สัตว์ที่ชาวบ้านหามาได้ เช่น กบ เขียด แย้ งู หนูนา มดแดง แมลงบางชนิด ส่วนเนื้อหมู วัว ไก่ และเนื้อสัตว์อื่น ๆ ก็นิยมตามความชอบ และฐานะ สำหรับอาหารทะเลใช้ปรุงอาหารน้อยที่สุด เพราะนอกจากจะหายากแล้วยังมีราคาแพงอีกด้วย อาหารไทยภาคใต้ อาหารของภาคใต้จะมีรสเผ็ดมากกว่าภาคอื่นๆ แกงที่มีชื่อเสียงของภาคใต้ คือ แกงเหลือง แกงไตปลา เครื่องจิ้ม ก็คือ น้ำบูดู และชาวใต้ยังนิยมนำน้ำบูดูมาคลุกข้าวเรียกว่า "ข้าวยำ" มีรสเค็มนำและมีผักสดหลายชนิดประกอบ อาหารทะเลสดของภาคใต้มีมากมาย ได้แก่ ปลา หอยนางรม และกุ้งมังกรเป็นต้น ฝักสะตอ มีลักษณะเป็นฝักยาว สีเขียวเวลารับประทานต้องปอกเปลือก แล้วแกะเม็ดออก ใช้ทั้งเม็ดหรือนำมาหั่น ปรุงอาหารโดยใช้ผัดกับเนื้อสัตว์หรือใส่ในแกง นอกจากนี้ยังใช้ต้มกะทิรวมกับผักอื่นๆ หรือใช้เผาทั้งเปลือกให้สุกแล้วแกะเม็ดออกรับประทานกับน้ำพริกหรือจะใช้สดๆ โดยไม่ต้องเผาก็ได้ ถ้าต้องการเก็บไว้นานๆ ควรดองเก็บไว้
ได้มาจาก http://blog.eduzones.com/chain/3468

ประโยชน์การออกกำลังกาย




ประโยชน์การออกกำลังกาย

ประโยชน์การออกกำลังกาย
ประโยชน์ของการออกกำลังกายทราบหรือไม่ว่า การออกกำลังนอกจากจะทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังให้ประโยชน์อะไรกับร่างกายอีก วันนี้เดลินิวส์ออนไลน์มีเรื่องนี้มาฝาก...- ผิวจะดูดีขึ้น การออกกำลังมีผลในแง่บวกหลายอย่างต่อผิว ช่วยเติมสีสันให้พวงแก้ม ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้นจากการไหลเวียนของโลหิตที่ดีขึ้น และยังทำให้ผิวกระชับขึ้น ซึ่งช่วยป้องกันความหย่อนยานหรือริ้วรอยได้ด้วย- ขนาดร่างกายจะสมส่วน การออกกำลังเป็นประจำจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรีส่วนเกิน และลดน้ำหนักได้ จะค่อย ๆ มีขนาดร่างกายที่เหมาะสมกับส่วนสูง และโครงสร้างร่างกาย จะทำให้มีความมั่นใจเพิ่มขึ้น และก็จะดูดีขึ้นตามไปด้วย- เส้นผมจะแข็งแรงกว่าเดิม การออกกำลังกายเป็นประจำช่วยให้มีการสูบฉีดโลหิตไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย รวมทั้งหนังศีรษะด้วย รากผมจะได้รับอาหารจากเลือดที่เต็มไปด้วยออกซิเจน และช่วยกำจัดอนุมูลอิสระก่อนที่จะทำลายเส้นผม- ดวงตาจะแจ่มใสขึ้น เป็นผลของการไหลเวียนโลหิตที่ดี จะทำให้ดวงตามีความชุ่มชื้น และแจ่มใส นอกจากนี้ การใช้สายตาจับจ้องไปข้างหน้าตลอดเวลาของการออกกำลัง ทำให้ได้มีการออกกำลังกล้ามเนื้อดวงตา ที่ทำให้แข็งแรงขึ้น- กล้ามเนื้อจะดูดีขึ้น การออกกำลังแต่ละอย่างจะทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ทำให้ดูเพรียวขึ้น เสื้อผ้าจะเข้ากับรูปร่างได้อย่างสวยงาม และก็จะดูฟิตมากขึ้นรู้ถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายกันแล้ว หันมาออกกำลังกายกันดีกว่า
ได้มาจาก http://variety.mwake.com/story/246/ประโยชน์การออกกำลังกาย.html

เตือนภัยสาว



เตือนภัยสาว

เตือนภัยสาวๆ ที่อาจถูก แอบถ่ายภาพประกอบอินเตอร์เน็ตเตือนภัยสาวๆ "การสังเกตกล้องแอบถ่าย ใช้โทรศัพท์โทร.ออกเพื่อเช็กได้" วิธีนี้อย่าชะล่าใจ ผู้เชี่ยวชาญและตำรวจชี้พอมีเค้า แต่ให้ฟันธงคงไม่ได้ เพราะถึงเป็นอุปกรณ์ไร้สายเหมือนกัน แต่ก็ไม่น่าจะมีคลื่นแทรกเข้ามาจนเรารู้ได้ แนะทางที่ดีสังเกตด้วยสายตาจะดีกว่า ตรวจให้ละเอียด ถ้าไม่ใช่กล้องเข็มโอกาสหาเจอมีอยู่แล้ว ปัญหาการถูกแอบถ่ายตามห้องน้ำ ห้องลองเสื้อผ้า ยังคงสร้างความหวาดผวาให้กับบรรดาหญิงสาวในยุคปัจจุบัน หลายคนก็ระวังตัว และหาวิธีป้องกันต่างๆ นานา ทั้งตรวจสอบตามช่องและรูต่างๆ หรืองดการเข้าห้องน้ำ และลองเสื้อผ้าตามห้าง รวมทั้งอีกหลายๆ วิธีที่ได้รับคำบอกกล่าวมา โดยล่าสุดหลังข่าวฮือฮาแอบถ่ายนักเรียน นักศึกษาในห้องน้ำเริ่มซาไป ก็มีผู้หวังดีได้แจ้งผ่านอีเมล์ต่อผู้สื่อข่าว ถึงการป้องกันการแอบถ่ายในห้องลองเสื้อ โดยเฉพาะสาวๆ ว่า เวลาเพื่อนๆ ไปซื้อเสื้อผ้าก็ต้องมีการลองชุดกันก่อน โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทีนี้มักจะมีข่าวออกมาว่า มีการใช้กล้องขนาดเล็ก "แอบถ่าย" ในห้องลองเสื้อของสุภาพสตรี "วันนี้ผมมีวิธีป้องกัน คือว่าให้พี่และเพื่อนๆ ใช้โทรศัพท์มือถือ โทร. ออกไปหาใครก็ได้ ถ้าหากว่าโทร. ติดก็แสดงว่าไม่มีกล้องซ่อนอยู่ครับ แต่ในทางตรงข้าม ถ้าหากว่าโทร. ไปหาใครต่อใครแล้วก็ไม่ติดสักที ทั้งๆ ที่คลื่นก็เต็มอยู่ นั่นแสดงว่ามีกล้องซ่อนอยู่ ที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าคลื่นของโทรศัพท์ถูกรบกวนโดยคลื่นของกล้องที่ส่งไปยังเครื่องรับครับ" ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามและได้รับคำชี้แจงจากผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมว่า วิธีดังกล่าวสามารถช่วยได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แต่ถามว่าถ้ามีกล้องติดตั้งอยู่แล้ว โทรศัพท์จะโทร. ไม่ออกเลยตามที่บอกหรือเปล่านั้น คงไม่ เพราะจะโทร.ได้ตามปกติ พูดคุยสนทนาได้ แต่ที่บอกว่าช่วยให้เรารู้คือ เวลาโทร.ออกอาจจะเหมือนมีคลื่นแทรกเข้ามา อาจจะมากหรือน้อยก็ได้ คือผิดปกติไปจากเสียงโทรศัพท์เดิม ลองสังเกตดู ถ้ามีให้สันนิษฐานไว้ก่อนได้เลยว่าอาจจะมีกล้องแอบถ่ายติดตั้งเอาไว้ แต่โดยรวมแล้ววิธีนี้ยังไม่สามารถเช็กได้ชัวร์ เพราะปกติอุปกรณ์พวกนี้จะถูกทำออกมาให้ใช้ได้กับทุกสภาวะอยู่แล้ว และก็น่าจะมีคลื่นความถี่ของตัวเอง ไม่น่าจะมาทับกันง่ายๆ ด้าน พ.ต.ท.ดรัน จาดเจริญ สารวัตรศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า ถามว่าตามหลักสันนิษฐานเป็นไปได้มั้ย ถ้าตามหลักก็เป็นไปได้ แต่โอกาสคงน้อยมาก เพราะจริงๆ เรื่องคลื่นรับส่งนั้นอาจจะมีแทรกกันได้ แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ดีๆ เค้าต้องทำมาให้ใช้ได้ในทุกสถานการณ์อยู่แล้ว ระบบน่าจะมีการป้องกันเรื่องนี้ การที่คลื่นทับกันคงเป็นไปไม่ได้ โทรศัพท์คงโทร.ออกได้ตามปกติ "ถ้าถามถึงความเป็นไปได้ ก็อาจจะมีบ้างที่มีคลื่นแทรก แต่คงจะเพียงส่วนน้อยเท่านั้น กรณีนี้พูดถึงกล้องที่เป็นแบบไร้สาย ที่สำคัญเราต้องดูองค์ประกอบภายนอกอื่นๆ ด้วย การที่คลื่นแทรกเพราะมีคนใช้โทรศัพท์ใกล้ๆ เป็นที่มีคนเยอะ หรืออยู่ในมุมอับสัญญาณไม่มีหรือไม่ คือถ้าจะให้บอกว่าเข้าห้องลองเสื้อ แล้วโทรศัพท์มีคลื่นแทรก แสดงว่ามีกล้องติดตั้งอยู่ พูดอย่างนี้คงกว้างไป แต่ก็ให้สันนิษฐานไว้เบื้องต้นได้เหมือนกัน แต่ก็อย่าไปเชื่อมาก วิธีนี้ฟันธงไม่ได้ ไม่ชัวร์เลย ทางที่ดีเราสังเกตด้วยตัวเราเองจะดีกว่า เพราะถ้าไม่ใช่กล้องเข็มที่ใช้ถ่ายทำพวกสารคดีแล้ว น่าจะมองและหาเจอได้ ตามมุมอับๆ หรือที่บังสายตาลองสังเกตให้ดี ส่วนวิธีที่กล่าวมาไม่ขอยืนยัน".
ได้มาจาก http://www.zazana.com/Story-900/id6441.aspx

เตือนภัยสาว




เตือนภัยสาวเที่ยสกลางคืน

เตือนภัยสาวนักเที่ยวกลางคืนด้วยความเป็นหญิง เป็นเพศที่อ่อนแอ ในยามที่มีภัยประชิดตัวจะป้องกันตัวจากเพศตรงข้ามได้น้อยมาก จึงอยากเตือนภัยสำหรับสาวนักเที่ยวกลางคืนว่า หากคุณต้องการเที่ยวกลางคืนตามสถานบันเทิงต่างๆ และไม่อยากตกเป็นเหยื่อ ควรจะให้ความระมัดระวังภัยให้กับตนเอง ดังนี้1. ควรเลือกสถานที่บันเทิงที่จะไป ไม่ควรเป็นสถานที่ที่ล่อแหลมในการก่อเหตุอาชญากรรม2. อย่าแต่งกายวับๆ แวมๆ แต่งกายโป๊ แฟชั่นประเภทสายเดี่ยวกระโปร่งสั้นจนน่าเสียวใส้ เพราะทำให้มองว่าเป็นสาวเปรี้ยว สาวซ่าส์ เด็กมั่น...ควรพึ่งระลึกไว้เสมอว่าเสื้อผ้าประเภทตัดเย็บด้วยผ้าชิ้นน้อย...สายเดี่ยวเหล่านั้น ก่อให้เกิดความรู้สึกทางเพศโดยเฉพาะในเพศชายนั้นนับเป็นการไปกระตุ้นอารมณ์ทางเพศของเพศชายได้อย่างง่ายดาย ถ้าไม่อยากเป็นข่าวหน้า 1 หรือเป็นผู้ที่ถูกข่มขืนรายต่อไปควรพึงสังวรเรื่องการแต่งกายไว้ด้วยนะค่ะ3. เมื่อไปเที่ยวสถานบันเทิงแล้ว แต่นอนต้องมี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาเกี่ยวข้องคุณจึงไม่ควรดื่มสุรา หรือเครื่องดื่มประเภทนี้จนมึนเมา ไม่รู้สติ ควบคุมตนเองไม่ได้ยิ่งคุณผู้หญิงที่ไปเที่ยวคนเดียวแล้วละก้อ อาจเกิดกรณีที่เป็นข่าวแท็กซี่นำผู้โดยสายสาวไปข่มขืนอีกก็ได้ ใครจะไปรู้ละค่ะ4. การไปเที่ยวในสถานบันเทิงยามราตรี ควรไปเที่ยวกับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่ๆ จะทำให้โอกาสเกิดภัยคุกคามขึ้นกับตัวเองลดน้อยลง..แต่ก็ต้องระวัง เพื่อนที่ไปด้วยต้องเป็นเพื่อนที่สนิท, มีเพศเดียวกันอยู่ด้วย หากเป็นเพื่อผู้ชายก็ต้องไว้ใจได้ด้วยค่ะ..รู้หน้าไม่รู้ใจใช่มั๊ยค่ะ5.ในการเข้าห้องน้ำในสถานบันเทิง อย่าไปคนเดียว ควรชวนเพื่อนไปด้วย ดูให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีใครหลบอยู่ในห้องน้ำ และหากมีเพื่อนไปหลายคน มีเหตุการณ์ใดๆเกิดขึ้นก็สามารถช่วยเหลือกันได้6.ควรฝึกศิลปะป้องกันตัวไว้บ้าง เช่น หัดชกมวย ตีเข่า (ให้เข้าเป้า) ฝึกเทควันโดคาราเต้ หรือ พกอาวุธเล็กๆ ไว้บ้าง เช่น สเปย์, มีดคัดเตอร์ แต่ระมัดระวังในการใช้ด้วยนะค่ะ.. เดียวอาวุธเล็กๆ เหล่านี้จะกลายเป็นภัยกับตนเองก็ได้จะเห็นได้ว่าในหน้าหนังสือพิมพ์ปัจจุบันมีข่าวข่มขืน, ปล้น, ฆ่า กันไม่เว้นแต่ละวันและภัยในยุคปัจจุบันก็มีหลายรูปแบบ อาจเกิดขึ้นไปใครก็ได้ ที่ไหนก็ได้ คุณควรตั้งมั่นอยู่ในความไม่ประมาท....พยายามหลีกเลี่ยงการพาตนเองไปยังสถานที่อันตรายและล่อแหลมอันจะนำภัยสู่ตนเองได้.
ได้มาจาก http://zogzagth.tripod.com/scoop/scoop5.htm

เตือนภัยพิบัติล้างโลก

เตือนภัยพิบัติล้างโลก ปี 2012 โดย อาจารย์สุมิตร

เตือนภัยพิบัติล้างโลก ปี 2012 โดย อาจารย์สุมิตร
เมื่อราวเดือนสิงหาคม ปี พ.ศ.2551 (ค.ศ.2008) อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา กลายเป็นที่รู้จักของคนไทย จากการเป็นผู้คิดค้นรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในประเทศไทยเป็นคนแรก โดยพัฒนาอุปกรณ์แยกไฮโดรเจนจากน้ำ ทำให้รถยนต์สามารถใช้พลังงานน้ำแทนน้ำมัน เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อนได้สำเร็จ หรือเรียกง่ายๆ ว่า รถใช้น้ำที่ใครหลายคนฝันไว้ ได้เกิดขึ้นได้จริงจากนักวิจัยท่านนี้แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่านอกจากการเป็นนักวิจัยของไทยที่นับว่ามีความรู้ความ สามารถท่านหนึ่งแล้ว อาจารย์สุมิตรยังทำงานอยู่ในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือองค์การนาซ่า ในสายงานที่อาจเรียกว่าพิเศษก็ไม่ผิดนัก กล่าวคือ ต้องทำงานร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก สร้างยานอวกาศ เพื่ออพยพผู้คนจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือ ปี ค.ศ.2012 (พ.ศ.2555) ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันในวงจำกัดเท่านั้น!!!อาจารย์สุมิตร บอกเล่าผ่านรายการ The Taxi ทางช่องเอ็นบีที เกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติของโลก ว่า ในอีก 3 ปีข้างหน้า โลกจะเกิดหายนะขึ้นจากเหตุอุทกภัย น้ำจะท่วมโลกอย่างแน่นอน ซึ่งคนในองค์การนาซ่าทุกคนต่างทราบเรื่องนี้มานานแล้ว จึงได้พยายามสร้างยานอวกาศเพื่ออพยพผู้คนหนีภัยน้ำท่วมโลก โดยอาจารย์สุมิตร เผยว่า ยานอวกาศดังกล่าวใกล้เสร็จแล้ว แต่ไม่ได้ระบุว่าสร้างไว้ทั้งหมดกี่ลำพร้อมกันนี้ อาจารย์สุมิตร ยังระบุด้วยว่า มนุษย์ต่างดาวมีจริง และปัจจุบันมีมนุษย์ต่างดาวมาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า โดยใช้วิธีสื่อสารทางโทรจิตในการถ่ายทอดความรู้ทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยมนุษย์จากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 (พ.ศ.2555) อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ ทางสหรัฐอเมริกา ค่อนข้างปกปิด ทำให้คนส่วนมากในโลกไม่รู้ เนื่องจากอาจมองว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวเป็นเรื่องเหลวไหล "โลกมนุษย์เรา ไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว ในจักรวาลอื่นๆ ก็มีมนุษย์ต่างดาวประมาณ 200 จักรวาล ซึ่งโลกของเราเป็นเพียงจักรวาลเล็กๆ 1 จักรวาล เท่านั้น เราไม่ได้อยู่โดดเดี่ยวหรอกนะ"เมื่อรู้เช่นนี้ อาจารย์สุมิตร จึงเสนอต่อกระทรวงวิทยาศาสตร์ของไทย เพื่อให้เร่งสร้างยานอวกาศเตรียมไว้สำหรับอพยพคนไทยจากอุทกภัยน้ำท่วมโลก ค.ศ.2012 แต่กลับไม่มีใครเชื่อ เนื่องจากอาจเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่มีน้ำหนักมากพอในเชิงหลักฐาน"อีก 3 ปี ข้างหน้านี้ โลกกำลังจะเกิดหายนะจากอุทกภัยน้ำท่วมโลกใน ค.ศ. 2012 แน่นอน นี่เป็นเรื่องจริง ที่ฝรั่งเค้าตื่นตัวกันมาก โดยเฉพาะในหมู่นักวิทยาศาสตร์อวกาศ แต่คนไทยเกือบทั้งหมด ยังไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ มันเป็นวันหายนะที่ร้ายแรง ไม่งั้นมนุษย์ต่างดาวคงไม่มาทำงานร่วมกับองค์การนาซ่า เพื่อช่วยในการสร้างยานอพยพผู้คนในครั้งนี้เป็นแน่"นี่เป็นคำยืนยันจากปากของ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา นักวิทยาศาสตร์ไทยจากองค์การนาซ่า ที่หลายคนอาจเชื่อ แต่หลายคนอาจไม่เชื่อ ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคล อย่างไรก็ดี นอกจากอาจารย์สุมิตรแล้ว ยังมีนักวิทยาศาสตร์อีกลายคนที่พยายามจะมาเตือนคนไทยเรื่องภัยพิบัติน้ำท่วม ล้างโลกก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ทำนายกรุงเทพฯ จมใต้น้ำในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015) และอีกท่านที่รู้จักกันดี คือ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ทำนายอนาคตโลกต้องเกิดภัยพิบัติครั้งมโหฬารในปี พ.ศ.2560 (ค.ศ.2017) โดยท่านทำนายไว้เมื่อปี พ.ศ.2548ย้อนกลับไปดูผลงานรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนของอาจารย์สุมิตร เป็นรถที่ใช้น้ำแทนน้ำมัน วิ่งได้ 56 กิโลเมตร/ลิตร โดยอาศัยหลักการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ทำให้ได้ก๊าซไฮโดรเจน 2 อะตอม และ ออกซิเจน 1 อะตอม โดยใช้อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเรียกว่า "รีแอคเตอร์" เป็นตัวแยก เมื่อนำไปติดตั้งกับรถยนต์จะใช้ไฟฟ้ากระแสตรงจากแบตเตอรี่รถ 12 โวลต์ เข้ามาทำการแยกโดยขั้วบวกจะมีปฏิกิริยาของออกซิเจน ขั้วลบจะเป็นปฏิกิริยาของไฮโดรเจนในการแยกโมเลกุลน้ำ และได้ไฮโดรเจนซึ่งเป็นเชื้อเพลิง แล้วส่งเข้าไปสันดาปในเครื่องยนต์ "จุดประสงค์ที่คิดค้นเกิดจากอยากให้โลกรู้ว่า น้ำสามารถเป็นพลังงานทดแทนได้ในอนาคต จึงได้พัฒนาอุปกรณ์ตัวนี้ขึ้นมา นอกจากนี้รีแอคเตอร์ยังเป็นตัวแก้ปัญหามลพิษ สภาวะปัญหาของโลกในปัจจุบันที่เกิดสภาวะโลกร้อน เพราะการใช้น้ำมาเป็นพลังงานเป็นเชื้อเพลิง จะทำให้ลดภาวะโลกร้อนและแก้ปัญหามลพิษไปด้วย ผลงานชิ้นนี้จะไม่ใช่ชิ้นแรกและชิ้นสุดท้าย ขอให้คนไทยเป็นกำลังใจให้ผมและทีมงานทำหน้าที่ต่อไปให้สำเร็จ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติต่อไป" พ.อ.อ.สุมิตร กล่าวสำหรับ อาจารย์สุมิตร หรือ พ.อ.อ.สุมิตร อิศรางกูร ณ อยุธยา เดิมเป็นชาว จ.ราชบุรี จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเบญจมราชูทิศ และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนจ่าอากาศ เริ่มต้นรับราชการที่กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี เป็นเวลา 6 ปี จากนั้นได้ศึกษาต่อในหลายสถาบันทั้งในประเทศและต่างประเทศ กระทั่งจบการศึกษาในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมอากาศยาน จากประเทศสหรัฐอเมริกา มีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 ปี ในบริษัทผู้ผลิตอากาศยานยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น โบอิ้ง หรือแอร์บัส ทำงานในองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา มีผลงานการประดิษฐ์ที่ทำให้ประหลาดใจหลายอย่าง จนเพื่อนร่วมงานขนานนามว่า "พ่อมด" แห่งองค์การนาซ่า
ได้มาจาก http://board.palungjit.com/f2/เตือนภัยพิบัติล้างโลก-ปี-2012-โดย-อาจารย์สุมิตร-192764.html